คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก รักษาหายจริง ไม่เลี้ยงไข้

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก T-point clinic บริการดี ราคาไม่แพง

วิธีการรักษาสิวในยุคปัจจุบันนี้มีความหลากหลายอย่างมากด้วยนวัตกรรมความงามที่ทันสมัย ดังนั้นแล้วไม่ว่าคุณจะเป็นสิวแบบไหนก็ตามสามารถสบายใจได้เลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้น จะสามารถทุเลาลงไปได้อย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีสิวขึ้นบริเวณใบหน้า สิวที่หลังหรือการมีสิวบริเวณอื่นๆของร่างกายก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การเข้า คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก จึงได้รับความนิยมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มีปัญหาสิว และก่อนที่เราจะไปเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกรักษาสิว เราจะต้องรู้สาเหตุ และวิธีการป้องกันสิวด้วยตัวเองในเบื้องต้นก่อน

 

สิวเกิดจากอะไร ?

เป็นสิวแสดงว่ามันจะต้องมีอะไรสักอย่างผิดปกติแล้ว อาจจะเป็นสิ่งสกปรกความมัน ฝุ่น ละออง เหงื่อ ฯลฯ มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ เป็นสิวนั้นเกิดการอุดตันของคอมีโดน ที่เป็นสารเหนียว ๆ เกิดจากการรวมตัวของน้ำมัน ขนอ่อน แบคทีเรีย และ เซลล์ผิวหลุดลอก เอาจริง ๆ มันก็เกี่ยวหลายอย่างนะ บางทีเราก็แทบจะหนีจากการเกิดสิวไม่พ้นแต่ว่าหากมันเยอะไป มาบ่อยไม่หายสักก็ต้องรีบจัดการและหาสาเหตุนะ ตัวที่ทำให้เกิดน้ำมันที่เป็นส่วนหนึ่งของคอมีโดนก็จะมี

1.อาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง นม เนย และไม่ค่อยทานผักผลไม้เน้นแต่เนื้อ หมู มัน มากเกินไป

2.ภาวะความเครียด ปัจจุบันคนเครียดเยอะจากการงาน เวลาที่เร่งรีบ มีจำกัด

3.พักผ่อนไม่เพียงพอนอนน้อย นอนไม่ครบ 6 – 8 ชั่วโมง รวมถึงการนอนดึก นอนไม่เป็นเวลาด้วยนะ

4.การใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว โดยเฉพาะเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานไม่มีคุณภาพจะต้องระมัดระวังอย่างมาก

5.อยู่ในช่วงวัยรุ่น มีฮอร์โมนเพศชายสูง

6.สภาพอากาศร้อน มีความชื้นสูง

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก

ซึ่งสิวที่มาจากการอุดตันของคอมีโดนในรูขุมขนนั้นก็จะปกติไม่ถึงกับต้องหาหมอหรือหาคลินิกรักษาสิวพิษณุโลก ปล่อยเอาไว้เฉย ๆ ทำความสะอาดใบหน้า ร่างกายปกติก็จะหายไปเอง แต่ว่ากับสิวที่ที่เกิดจากอื่น ๆ ที่ทำให้อักเสบแบบหนัก ๆ พังมาก ๆ อย่างสิวแพ้ยา สิวสเตอรอยด์

 

สิวมีกี่ประเภท ?

1.สิวไม่อักเสบ หรือ สิวอุดตัน จะเป็นแบบไม่มีหัว สิวคอมีโดน สิวเสี้ยน สิวผด ฯลฯ เป็นสิวที่ไม่อักเสบนั่นเอง ซึ่งสิวแบบนี้มันก็ยากนะหากจะหายาอะไรมาทาแล้วหากปกติก็อาจจะปล่อยไปเลยก็จะหายไปได้เอง ภาษาอังกฤษของสิวไม่อักเสบนี้คือ Non-inflammatory ance

2.สิวอักเสบ ตัวนี้ส่วนมากก็มักจะมาจากสิวปกติที่ยังไม่อักเสบมาก่อน ซึ่งอาจจะได้รับการเสียดสี กระทบกระเทือน ยิ่งใครไปแกะไปเกาบ่อย ๆ ยิ่งอักเสบกว่าเดิม แต่สิวชนิดนี้จะค่อนข้างทรมาน กว่าจะหายก็คงจะหมดค่ายา ค่าหมอไปพอสมควรเลย แต่ถ้าอยากจะไม่ต้องจ่ายแพงและอยู่ในเขตพิษณุโลกมาที่คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก T-point-clinic ได้เลย

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก

 

ทำอย่างไรให้ห่างไกลจากสิว

ความสะอาดเป็นสิ่งที่ผลักสิวออกไปได้ดีที่สุด สิวมักจะเกิดมาจากสิ่งอุดตันต่าง ๆ การทำอะไร กิจกรรม สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้สิวเกิดได้ การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปลอดภัยต่อผิว ทำความสะอาดได้ดีจะช่วยได้ดีในระดับหนึ่ง เวลาไปไหนมาเหนื่อย ๆ ถ้าเหนื่อยมากจริงอยากจะหลับ อาบน้ำไม่ไหวอย่างน้อยก็ต้องล้างหน้า เช็ดเครื่องสำอางสักหน่อยจะได้ไม่เกิดการอุดตันของรูขุมขน ถ้านอนทั้งอย่างนั้นเลยพอคุณตื่นมาตอนเช้าจะตกใจหน้าตัวเองที่มีเม็ดน้องสิวมาเยือนแน่นอน

อีกอย่างหนึ่งที่ละเลยไม่ได้เลยคือควรจะเลือกสรรอาหารที่จะทานให้ดี โดยเฉพาะกับคนที่เป็นสิวแล้ว ลดให้ได้อาหารมัน ๆ อาหารทอด อาหารที่มีส่วนผสมของนม เนย ครีม อาหารฟาสฟู๊ด ขนมปัง เป็นต้น พอทานไปบ่อย ๆ จะทำให้เกิดสิวได้นะ ฉะนั้นก็ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ในระหว่างวัน ทานผัก ทานผลไม้เยอะ ๆ ก็ช่วยได้ และสิ่งสำคัญคือให้ร่างกายแข็งแรงออกกำลังกายหน่อยนะ และควรพักผ่อนให้เพียงพอเสมอ นอนดึก นอนไม่พอยังไงสิวมันก็มาแถมยังเสี่ยงเป็นโรคอื่น ๆ อีกหลายโรคเลยด้วย

สิวนั้นเป็นได้ก็หายได้เหมือนกัน แต่เวลามันเป็นพยายามอย่าไปแงะ แกะ เกา บีบ เขี่ย ห้ามเด็ดขาดเลย บางคนมือวางไม่ได้ชอบลูบหน้า จับหน้าตัวเองตลอดโดยก็ไม่รู้ว่ามือไปโดนอะไรมาบ้าง หรือต่อให้ไม่สัมผัสอะไรแต่การเสียดสีบ่อย ๆ ก็ทำให้อักเสบได้ ถ้าใครเป็นแล้วก็ไปหาคลินิกรักษาสิว พิษณุโลกโดยด่วนเลย

 

เคล็ดลับง่าย ๆ ลดความเสี่ยงการเกิดสิว

1.นอนเร็ว ๆ ควรนอนไม่เกิน 23.00 น. พร้อมกับต้องครบ 6 – 8 ชั่วโมง

2.ในระหว่างวันดื่มน้ำเยอะ ๆ หรือจะจิบน้อย ๆ แต่จิบบ่อย ๆ ก็ได้

3.หาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้งเป็นอย่างต่ำ

4.ควบคุมอาหาร โดยให้งดของขบเคี้ยว อาหารจำพวกของหวาน ของมัน แป้ง

5.งดการจับใบหน้า การสัมผัสผิวแบบเด็ดขาดเลยเพราะจะทำให้

6.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว

7.รักษาความสะอาดสุขภาพร่างกายเสมอ

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก

เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่บางข้อหลายคนก็ทำไม่ได้จึงเป็นเหตุให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ และสิวอื่น ๆ ตามมาแบบไม่หยุดเลย การเป็นสิวไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตกใจแต่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะสิวอักเสบอย่างมาก ซึ่งเลเวลของสิวชนิดอักเสบนั้นจะมีดังนี้

1.สิวอักเสบแบบ Paplue จะเป็นลักษณะนูนแดงขึ้นมาเล็กน้อย

2.สิวอักเสบแบบ Pustule จะมีหนอง หัวสิวจะเป็นหนองแบบชัดเจน

3.สิวอักเสบแบบ Nodule/Cyst ซึ่งจะเป็นหนองแบบชัดเจนมา และ เจ็บมาก ๆ ซึ่งอาจจะเรียกว่าสิวหัวช้าง ซึ่งรุนแรงมากเนื่องจากคอลลาเจนโดนทำลายไปแล้ว ทำให้อาจจะทิ้งรอยหลุมสิวเอาไว้ หากเป็นขนาดนี้ทางออกคือต้องพบแพทย์ที่คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก หากรักษาเองนั้นเสี่ยงมากที่จะติดเชื้อและเป็นหนักกว่าเดิม

 

สิวเกิดกับใครได้บ้าง ?

บางคนคิดว่าสิวมันเลือกเกิดเฉพาะบางคน มันเป็นเวรกรรม มันไม่ใช่เลยนะมันเป็นได้ มันก็หายได้เหมือนกัน และสิวบางประเภทอย่างสิวเสี้ยนเล็ก ๆ นั้นบางครั้งก็ควรจะปล่อยมันไป เพราะว่าหากเราเครียดกับสิวทุกเม็ดเกินไปมันจะยิ่งเห่อมานะ สิวอักเสบ สิวอุดตันแบบใหญ่ ๆ ชนิดที่ขึ้นมาทั้งหน้าแทบจะนอนไม่ได้แบบนั้นจะต้องรีบจัดการ หรือสิวที่มันดูแลว่าปล่อยไปไม่ได้เลย

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก

ถามว่าสิวเกิดกับใครบ้าง ? ต้องบอกเลยว่าสิวมันไม่เลือกคน ไม่เลือกวัยสักเท่าไหร่บางครั้งเด็ก ๆ ประถมก็เริ่มมีสิวแล้วส่วนหนึ่งอาจจะเพราะฮอร์โมนของคนนั้นด้วย หรือบางคนอายุเยอะมากแล้วสิวก็ยังมีอยู่ ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยเราหนีสิวไม่พ้นแน่นอน เพียงแต่พอมันหายแล้วมันจะมาอีกวันไหน มันจะมาเพราะสิ่งเร้าอะไรบ้าง แต่ว่าสำหรับคนที่สิวอักเสบมาหน้าพังมาก ๆ รักษากับหมอหายแล้วสิ่งที่คุณต้องทำคือจะต้องดูแลตัวเองให้ดี ลด ละ เลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้สิว ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างดียังไงมันก็ไม่กลับไปพังอีกแน่นอน

ที่คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก มีบริการรักษาสิวแบบไหนให้เลือกบ้าง

 

1.การใช้สกินแคร์

สำหรับการรักษาสิวด้วยสกินแคร์ เรียกได้ว่าหนึ่งวิธีที่ง่าย ค่อนข้างมีความปลอดภัยต่อผิวหน้าสูง ราคาไม่แพง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวไม่รุนแรงมากนัก โดยคลินิกรักษาสิว จะมีการพิจารณาเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน ส่วนใหญ่แล้วจะใช้สกินแคร์ที่มีความอ่อนโยน มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์รวมไปถึงช่วยในการผลัดเซลส์ผิว ซึ่งจะต้องทาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี

คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก

 

2.การฉีดเมโส

สำหรับคลินิกรักษาสิวที่รักษาสิวด้วยการฉีดเมโสถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นการรักษาที่บำรุงผิวหน้าจากภายในโดยตรงกันเลยทีเดียว โดยตัวยาที่ฉีดเข้าไปนั้นจะมีส่วนผสมที่ช่วยในการบำรุงผิวหน้าและดูดซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือการมีผิวหน้าที่แข็งแรง ชุ่มชื้น สิวหายเร็วขึ้น มีความขาวกระจ่างใส และทำให้รอยสิวดูจางลงตั้งแต่ 3 วันแรกหลังทำเลยทีเดียว

คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก

 

3.การเลเซอร์

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากในคลินิกรักษาสิวพิษณุโลก นั่นก็คือ การเลเซอร์ ซึ่งในยุคนี้มีเครื่องยิงเลเซอร์หลายประเภทที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาสิวให้แห้งเร็ว ช่วยให้รอยสิวดูจางลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการฆ่าเชื้อแบคทีเรียจึงช่วยลดการเกิดสิวได้อีกด้วย โดยมีราคาที่จับต้องได้ไม่แพงมากจนเกินไป รับรองได้เลยว่าการเลเซอร์จะรักษาสิวให้คุณได้อย่างดี ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก

 

4.การฉีดฟิลเลอร์

ถ้าหากว่าใครมีปัญหาหลุมสิวตั้งแต่หลุมสิวตื้นไปจนถึงหลุมสิวลึกแล้วละก็ การฉีดฟิลเลอร์คือหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแท้จริง โดยคลินิกรักษาสิว จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่บริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มให้ผิวมีความชุ่มชื้นและหลุมจะดูตื้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วยังทำให้ใบหน้ามีความอิ่มน้ำ สดใสอีกด้วย

คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก

 

ทำไมต้องไปที่คลินิกรักษาสิวพิษณุโลก

สิวนั้นหมอรักษาได้หมดแต่ถ้าหากเป็นสิวปกติไม่ได้อักเสบ ปล่อยให้หายเองได้ แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบแล้วแนะนำว่าไปพบแพทย์เร็วได้เท่าไหร่จะยิ่งดี เราจะได้วิธีดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งได้รับการรักษาสิวอย่างถูกวิธีทำให้สิวหาย โดยทางคลินิกนั้นจะให้บริการปรึกษาก่อนว่าสิวแบบไหนรักษาอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการรักษาแต่ละครั้ง

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลก

โดยแพทย์จะต้องเอาหัวสิวออก เอาหนองออกให้หมด เพราะหากยังมีอยู่นั้นสิวอักเสบจะยังเกิดขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ เลย แม้ว่าปล่อยไว้บางตุ่มสิวมันยุบลงได้แต่พอได้รับสิ่งเร้านิดหน่อยสิวอักเสบ สิวอุดต้นมันกลับมาแน่นอน สิ่งที่ลดสิวได้อย่างหนึ่งก็จะมีการทานยาฆ่าเชื้อ ซึ่งจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางแพทย์แนะนำมาให้ใช้เท่านั้น หรือหากอยู่ในระยะของการรักษาทางแพทย์จะให้ใช้เฉพาะตัวยาและผลิตภัณฑ์บำรุงที่จัดให้เท่านั้น 

บทสรุป

คลินิกรักษาสิว พิษณุโลกอาจจะมีหลายแห่ง แต่เราจะต้องเลือกให้ดี โดยการดูรีวิว เช็คที่มาที่ไปของคลินิกด้วย และดูชื่อเสียงของแพทย์ หรือใบอนุญาตประกอบการของคลินิกนั้น ๆ จะช่วยให้เราได้คลินิกที่รักษาสิวได้ดีสมกับเงินที่จ่ายไป สิวหายจริงไม่เลี้ยงไข้ และกลับมามีใบหน้าที่สวยงามตามที่ต้องการ

เลือกคลินิกทำจมูกเชียงใหม่อย่างไร ให้ได้ตามรูปทรงที่ต้องการ

สารบัญบทความ

เคล็ดลับการเลือกคลินิกทำจมูกเชียงใหม่ ที่หลายๆ คนจำเป็นต้องรู้ !!

วัสดุที่ใช้การทำจมูกเชียงใหม่มีกี่ประเภท

การดูแลตัวเองหลังจากทำจมูก

บทสรุป

 

 

การทำจมูกเชียงใหม่นี้ก็เป็นการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่มีความเสี่ยงเช่นกันกับศัลยกรรมอื่นๆ จึงต้องมีการพิจารณาเลือกคลินิกในการทำจมูกพอสมควร เพื่อความปลอดภัยในการทำการทำศัลยกรรมจมูกนั้นมีมาหลายปีแล้วซึ่งก็มีการพัฒนาการทำจมูกมาเรื่อยๆ เพื่อให้มีความปลอดภัยและความสวยของจมูกที่มากขึ้น ทำไปแล้วผู้มารับบริการมีความประทับใจและไม่ต้องให้ได้กลับมาแก้ทรงจมูกใหม่ ซึ่งแต่ละคลินิกทำจมูกก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคให้ดียิ่งๆขึ้นไปเช่นกันเพื่อให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อให้ได้ผลตอบรับที่ดีขึ้นจากลูกค้า ซึ่งการทำจมูกนั้นก็จะมีหลากหลายแบบการทำมาก ไม่ใช่เพียงแต่การใส่ซิลิโคนธรรมดาเหมือนแต่ก่อนแล้ว สามารถเลือกทรงของจมูกได้ ทั้งแบบทรงสไตล์ฝรั่ง หรือสไตล์เกาหลีก็ได้ ซึ่งก็จะทำให้เมื่อใส่ซิลิโคนไปแล้วใบหน้ามีความเปลี่ยนแปลงสวยคมมากขึ้น

ทำจมูกเชียงใหม่

 

เคล็ดลับการเลือกคลินิกทำจมูกเชียงใหม่ ที่หลายๆ คน จำเป็นต้องรู้ 

หากคุณจะเลือกเสริมจมูกที่ไหนดสิ่งที่จะทำให้ชีวิตปังหรือพัง ข้อหลักการพิจารณาใหญ่ๆ สำหรับการเลือก ก็คือ การเลือกคลินิกเสริมจมูกให้ดี หากเราเลือกผิด เลือกเพราะราคาไม่ใช่ปัจจัยอื่นๆ พิจารณาร่วมด้วย ก็อาจจะทำให้ชีวิตพังแน่นอน การทำจมูกเชียงใหม่ หรือในหลายๆ พื้นที่ของไทยเราเริ่มได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของสาวๆ ที่ต้องการทำศัลยกรรมเป็นอันดับแรกๆ แต่อย่าให้การเลือกทำจมูก หรือศัลยกรรมจมูก เป็นเหมือนการเสี่ยงดวง วันนี้ทางเรา เลยอยากจะขอมาแนะนำเคล็ดลับการเลือกคลินิกทำจมูกสำหรับคนเชียงใหม่ หรือหลายๆ พื้นที่เป็นข้อพิจารณาพื้นฐานในการเลือกคลินิกที่ดี สำหรับการทำจมูกให้ปังๆ สวยงามอย่างที่ใจเราต้องการ


1.ตรวจสอบคุณหมอศัลกรรรมที่จะทำการผ่าตัดทำจมูกให้กับเรา

จริงๆ แล้วการผ่าตัดทำจมูก แม้ว่าจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ แต่ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ ก็สำคัญ เราสามารถตรวจสอบชื่อแพทย์ที่เราจะเริ่มทำการผ่าตัดเสริมจมูกจากเว็บแทพทยสภาได้เลย โดยตรง และสิ่งที่ห้ามเลยเด็ดขาด คือ การเลือกผ่าตัดทำจมูกกับหมอกระเป๋า เพราะนอกจากราคาจะไม่ถูกเหมือนที่โฆษณาไว้ ยังต้องเสี่ยงกับจมูกเน่า จมูกพัง เสียเงิน เสียโอกาส เผลอๆ เจอหมอแย่ๆ ชีวิตคุณอาจจะพังมากกว่าที่คิดก็เป็นไปได้

ทำจมูกเชียงใหม่


2.ตรวจเรื่องของใบอนุญาต รับประกอบการคลินิก ได้มาตรฐาน สะอาดปลอดภัย

จะต้องเป็นคลินิกทำจมูกที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองง่ายๆเลยว่า คลินิกแห่งนั้นจะต้องได้รับการอนุญาตให้เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเลขที่ใบอนุญาตและแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนภายในคลินิกหรือสถานเสริมความงามแห่งนั้น เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจได้ว่าคลินิกแห่งนี้มีมาตราฐานพร้อมให้บริการอย่างแน่นอน

3.แพทย์มีความเชี่ยวชาญ

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกคลินิก เสริมจมูกนั่นก็คือ แพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญในการศัลยกรรมจมูก เสริมจมูก โดยอันดับแรกเลยก็คือต้องเป็นแพทย์ตัวจริงที่มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง รวมไปถึงการดูรีวิวผลงานการเสริมจมูกว่าตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่ เพื่อนำไปพิจารณาเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง

4.การผ่าตัดทำจมูกด้วยชิลิโคน จะต้องเป็นเกรดคุณภาพ ที่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อร่างกาย

การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน หรือว่าวัสดุเทียมต่างๆนั้น จะต้องใช้วัสดุที่ดีและมีคุณภาพเท่านั้น จะต้องผ่านมาตรฐานของ อย. ซึ่งจะทำให้การเสริมจมูกเชียงใหม่ มีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อีกทั้งเกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้น้อยมาก  

ทำจมูกเชียงใหม่


5.ต้องมีรีวิวที่สามารถตรวจสอบและเชื่อถือได้ ในราคาค่าบริการที่เหมาะสม

จริงๆ แล้ว ของถูกของแพง ก็ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัด เรื่องคุณภาพได้เสมอไป เพราะคุณภาพห่วยๆ แต่ราคาแพงๆ ก็มีให้เห็นเสมอไป อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้รับบริการตัดสินใจเลือกรับบริการกับคลินิกเหล่านั้น ก็คือ ตัวรีวิวจากเคสผู้รับบริการจริง แต่ก็อาจจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดี รวมถึงถ้าเป็นไปได้ อาจจะสอบถามจากตัวผู้เข้ารับบริการผ่าตัดทำจมูก เชียงใหม่กับทางคลินิกก่อนหน้านี้จริงๆ เลยก็ได้ ว่าก่อนรับบริการ รวมถึงหลังรับบริการ การดูแลเคสต่างๆ เหล่านี้ผู้รับบริการไปแล้ว มีความประทับใจหรือไม่อย่างไร เพราะมันจะได้ข้อมูลที่ดีที่สุด Real ที่สุด


6.เรื่องของการรับประกันหลัง รับบริการผ่าตัดเสริมจมูก กับคลินิกเหล่านั้นที่เราเลือก

ข้อนี้สังเกตได้ไม่ได้ จะต่อเนื่องจากปัจจัยการพิจารณา จากข้อมูลของการดูเคสรีวิว และให้บริการหลังการผ่าตัด ว่าทางคลินิกมีการดูแล รวมถึงรับประกันเรื่องการผ่าตัดเสริมจมูกหรือไม่ ? และมีเคสความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ? ทางคลินกมีการละเลย หรือท้อดทิ้งคนไข้หรือไม่ ? ดุแลดีหรือไม่อย่างไร หลังจากการผ่าตัดเสริมจมูกตามระยะที่ควรจะเป็น รวมถึงการรับผิดชอบต่อเคสต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่ได้คาดคิด ตรงจุดนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งข้อปัจจัยการพิจารณาเลือกคลินิกเหล่านั้นเป็นสถานที่ที่เราจะผ่าตัดปรับเปลี่ยนจมูกของเราให้สวยงามได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยนั่นเอง

กลับสู่สารบัญ

 

วัสดุที่ใช้ในการทำจมูกเชียงใหม่มีกี่ประเภท

 

1.เสริมจมูกแบบซิลิโคนธรรมดา

เป็นการเสริมจมูกที่เรารู้จักและเห็นจนชินตา โดยเป็นการผ่าตัดที่นำซิลิโคนแบบแข็งมาสอดเข้าไปแล้วสวมทับลงบนโครงจมูกเดิม ข้อดีของการเสริมจมูกแบบธรรมดานี้คือ ราคาที่ไม่แพง มีหลายคลินิกที่ให้บริการในการเสริมจมูกแบบธรรมดานี้ ข้อเสียคือ หากเป็นคนจมูกเอียง เมื่อสวมใส่ซิลิโคนไปแล้วอาจทำให้จมูกดูเบี้ยวได้ ซึ่งการเสริมจมูกแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกตรงสวยอยู่แล้ว

ทำจมูกเชียงใหม่

 

2.เสริมจมูกแบบผสมระหว่างซิลิโคนกับกระดูกอ่อนหลังใบหู

เป็นการเสริมจมูกอีกแบบหนึ่งที่เน้นในการช่วยไม่ให้เกิดปัญหาปลายจมูกทะลุในภายหลังการทำ โดยการนำกระดูกอ่อนหลังใบหูเข้ามาช่วยในการเสริมตรงส่วนของปลายจมูกแทนการใส่ซิลิโคนเพียงอย่างเดียว เป็นการทำจมูกเชียงใหม่ที่ช่วยลดปัญหาปลายจมูกทะลุได้ดี

ทำจมูกเชียงใหม่

 

3.เสริมจมูกแบบกระดูกอ่อนซี่โครง

เป็นการเสริมจมูกที่ปลอดภัยมาก มีความเข้ากันได้กับตัวผู้ทำมากที่สุดเพราะเป็นการเสริมจมูกที่ใช้กระดูกอ่อนซี่โครงของผู้ทำมาใช้ในการเสริม  ซึ่งภายหลังการทำจมูกไปแล้ว จมูกจะมีความเป็นธรรมชาติมาก และไม่มีการระคายเคืองหรือเกิดปัญหาในภายหลังการทำเลย เป็นการทำจมูกที่เรียกได้ว่าปลอดภัยที่สุด

ทำจมูกเชียงใหม่

 

4.เสริมจมูกโดยใช้ไขมันตนเอง

เป็นการเสริมจมูกที่ใช้ไขมันในการช่วยเสริมให้จมูกมีความโด่งมากขึ้น การเสริมจมูกแบบนี้เป็นอีกเทคนิคหนึ่งในการเสริมที่มีความปลอดภัยมากเช่นกัน แต่การทำก็ต้องมีความชำนาญสูงเพราะหากมีความชำนาญไม่มากพอ การเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้ก็จะล้มเหลวไป เพราะไขมันจะมีการสลายตัวได้และทำให้ต้องมาเสริมจมูกใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นการจะทำจมูกด้วยวิธีการเสริมด้วยไขมันตนเองนี้จะต้องเลือกทำกับคลินิกทำจมูกที่มีความเชี่ยวชาญสูงและเชื่อถือได้

ทำจมูกเชียงใหม่

กลับสู่สารบัญ

 

การดูแลตัวเองหลังจากทำจมูก เชียงใหม่

1.ภายหลังการเสริมจมูกห้าม งัด แงะ แกะ เกา หรือทำอะไรก็ตามที่รุนแรงกับจมูก ซึ่งอาจจะส่งผลให้แผลเกิดการกระทบกระเทือนได้

2.ในช่วงแรกๆ ถ้าเพิ่งทำจมูกเชียงใหม่มาใหม่ๆ ห้ามให้แผลถูกน้ำโดยเด็ดขาด เพราะจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบของแผลและจะก่อให้การติดเชื้อตามมาได้ นอกจากนั้นแผลก็จะไม่แห้งและยุบสักที ดังนั้นช่วงนี้ให้งดเว้นจากการโดนน้ำ แต่หากต้องการทำความสะอาดใบหน้าให้ทำการใช้สำลีชุบน้ำเกลือและเช็ดใบหน้าแทนการล้างหน้าและเว้นบริเวณช่วงจมูกไว้

3.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือทานของแสลงใดๆก็ตามที่จะก่อให้แผลเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ เช่น ของหมักดองทุกชนิด , เหล้าเบียร์ ,อาหารซีฟู้ด เป็นต้น

4.ห้ามทำกิจกรรมหนักๆ หรือที่ต้องมีการกระเทือนของร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อแผลและจมูกได้

เพียงการดูแลตนเองให้ได้ตามนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงเหตุและปัจจัยที่จะทำให้จมูกเกิดการติดเชื้อได้แล้ว ซึ่งหากดูแลจมูกไม่ดีนั้นถ้าเกิดจากติดเชื้อขึ้นมา ต้องมาทำการเอาซิลิโคนออกและรักษากันอีกยาวเลยที ดังนั้นควรทำการดูแลตนเองตามที่คลินิกทำจมูก ได้ห้ามไว้ เพื่อความสวยงามและความปลอดภัยของจมูกภายหลังการทำ

ทำจมูกเชียงใหม่

 

กลับสู่สารบัญ

 

บทสรุป

สาระความรู้ที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น เป็นเพียงวิธีการพิจารณาเลือกคลินิกทำจมูก เชียงใหม่ และการดูแลตัวเองหลังจากทำจมูก เพื่อให้คุณได้รู้ หรือนำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใดก็ตาม สามารถความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้ได้ และที่สำคัญการเลือกใช้วัสดุซิลิโคนในการเสริมจมูกเองก็สำคัญเช่นเดียวกัน อย่าเลือกที่ราคาถูกจนเกินไป หรือไปทำกับหมอเถื่อน ทั้งนี้ก็เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือจมูกทะลุหลังจากทำศัลยกรรม

 

บริการเสริมคาง เชียงใหม่ ปรับรูปคางให้สวยงาม ถูกหลักโหงวเฮ้ง

รวมเรื่องที่ต้องทราบ ก่อนจะเสริมคาง เชียงใหม่ หรือจังหวัดไหนๆ ก็ตาม

สำหรับใครที่ค้างสั้น คางเล็ก คางไม่นูน หรือคางไม่สวย หรือผิดแปลกไปจากเดิมทำให้ไม่สวย การเสริมคาง เป็นการทำศัลยกรรมที่ช่วยให้คางสวยเข้ารูปรับกับโครงหน้าของแต่ละคนได้เลย จะลุคไหนก็เป๊ะแต่งหน้าแบบไหนก็ปังไม่มีพังอย่างแน่นอน  ซึ่งแพทย์จะผ่าตัดตกแต่งคางที่สั้นหรือยาวจนเกินไป ให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ ซึ่งจะใช้วิธีการผ่าตัดเล็ก สำหรับจัดรูปทรงของใบหน้าให้เรียวยาวยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเสริมคาง เชียงใหม่มีอะไรบ้าง มาดูพร้อมกัน

 

ศัลยกรรมเสริมคางใช้วัสดุอะไรในการทำ

โดยสิ่งที่จะใช้เสริมคางให้สวยในแต่ละรูปแบบนั้นก็ใช้เป็นซิลิโคนนั่นเอง ใครที่อยู่ในแวดวงความสวยความงามคงจะรู้จักอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปตัดเอาส่วนไหนในร่างกายเรามาเลยใช้ซิลิโคนก็ตอบโจทย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเคสยากสักแค่ไหน ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนคางบุ๋ม คางสั้น ฯลฯ ปัญหาเกี่ยวกับคางนั้นศัลยกรรมทำได้หมดเลยนะ ทำแล้วโครงหน้าไม่ผิดรูปอย่างแน่นอน โดยก่อนจะตัดสินใจเสริมคางนั้นทางคลินิกจะมีซิลิโคนแต่ละทรงมาทดลองเทียบให้เข้ากับทรงหน้าก่อน และให้เราเลือกด้วยว่าอยากจะได้คางประมาณไหน

เสริมคาง เชียงใหม่

ซิลิโคนที่เป็นวัสดุสำหรับเสริมคางนั้นจะต้องมีคุณภาพมาก ๆ และแน่นอนว่าทุกคลินิกที่ถูกกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ คุณหมอมีความชำนาญก็จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอ

 

แล้วควรเลือกซิลิโคนสำหรับเสริมคางเชียงใหม่อย่างไรดี

หลายคนเคยสอบถามไปที่คลินิกถึงการทำคาง ซึ่งซิลิโคนยี่ห้อต่างๆ ก็คือชื่อที่ทางคลินิกตั้งขึ้นเพื่อโปรโมตสินค้าที่บางครั้งชื่อเรียกคนละชื่อแต่รูปทรงของซิลิโคนเหมือนกัน ซึ่งการเลือกซิลิโคนจริงๆ ไม่ควรเลือกแค่ยี่ห้ออย่างเดียว แต่ให้เลือกจากลักษณะคางที่ต้องการ ซึ่งแพทย์ที่มีความชำนาญจะทำหน้าที่เหลาเพื่อปรับซิลิโคนคางให้เหมาะสมกับคางของคนไข้นั่นเอง

เสริมคาง เชียงใหม่

และอีกปัจจัยในการเลือกซิลิโคน ก็คือความยาวของขาซิลิโคน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการเสริมคางเชียงใหม่ ซึ่งคุณสามารถเลือกความยาวของขาที่เหมาะสมกับความกว้างของกระดูกคางได้ โดยประเมินร่วมกันกับความหนาของเนื้อเยื่ออ่อนที่บริเวณปลายคาง เพื่อให้ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด และไม่เห็นรอยต่อระหว่างซิลิโคน กระดูกคาง และเนื้อเยื่ออ่อนปลายคาง บางคนคิดว่ายิ่งซิลิโคนขายาวก็ยิ่งเสริมแล้วดูเรียว ทั้งที่ในความเป็นจริงลักษณะของใบหน้าที่เรียวของการศัลยกรรมต้องอาศัยประสบการณ์จากแพทย์ผู้ผ่าตัดเป็นหลักมากกว่า

ส่วนวิธีการเสริมคางนั้นส่วนมากจะทำได้ 2 แบบดังนี้

1.การเสริมคางด้วยซิลิโคนแบบเปิดแผลภายนอก วิธีนี้คนจะไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่เนื่องจากว่าจะเห็นแผลและมันยังมีให้เห็นหลังจากผ่าตัดแล้ว ตอนแผลหายทางแพทย์ก็จะเปิดแผลใต้คางออก

2.การผ่าตัดด้านใน เป็นการเปิดแผลในช่องปากบริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปาก ความยาวแผลจะประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร ซึ่งตรงนี้คนก็นิยมทำอยู่เพราะแผลจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เนื่องจากตัวแผลจะอยู่ด้านในช่องปากนั่นเอง

แล้ววิธีเสริมคางเทคนิคไหนดีที่สุด

ปกติแล้วการผ่าตัดเสริมคางแบบเทคนิคแผลด้านนอก จะช่วยให้การวางรูปทรงและตำแหน่งซิลิโคนมีความแม่นยำมากกว่า มีอาการบวมหลังผ่าตัดน้อยกว่า ไม่ติดเชื้อ และดูแลหลังจากที่ผ่าตัดได้อย่างง่ายดาย ทว่าคนไข้ส่วนมากมักจะกังวลเรื่องรอยแผลเป็น ทำให้เลือกเป็นเทคนิคแผลด้านใน ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้อย่างง่ายดายมากกว่า

ก่อนทำศัลยกรรมเสริมคางต้องเตรียมตัวอย่างไร

การผ่าตัดศัลยกรรมทุกชนิดจะต้องมีการเตรียมตัวมาดีของคนไข้ เพราะว่าจะได้ลดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ และทำให้การผ่าตัดเสริมคางนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี หากไม่เตรียมเลยหวังพึ่งแค่หมออย่างเดียว หรือ มีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะหากไม่พร้อมก็ไม่มีศัลยแพทย์ที่ไหนทำให้แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ สำหรับวิธีการเตรียมตัวก่อนจะเสริมคางให้ทุกคนปฏิบัติดังนี้

1.สุขภาพร่างกายต้องแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เช่น เป็นไข้ เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้ออักเสบทางผิดหนัง เป็นต้น

2.หากกำลังตั้งครรภ์ให้แจ้งศัลยแพทย์ทันที

3.หากแพ้ยาอะไรก็ต้องแจ้งก่อนทันที

4.งดการทานอาหารเสริมทุกชนิด งดทานยาบำรุง วิตามิน ต่าง ๆ อย่างน้อย 3 เดือน

5.หากมียารักษาโรคประจำตัวที่จะต้องทานเป็นประจำต้องแจ้งศัลยแพทย์ทันที

6.หากเคยทำศัลยกรรมอะไรมาก่อนต้องแจ้งทันที รวมถึงเคยผ่าตัดอะไรแบบไหนมาก็ต้องแจ้งเช่นกัน

7.ก่อนเริ่มผ่าตัดจะต้องทำความสะอาดร่างกายให้เสร็จ ล้างหน้าให้ดี บ้วนปากให้เรียบร้อย โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อบ้วน

8.ห้ามนำของมีค่าเข้าไปในห้องผ่าตัดเด็ดขาด (ทุกคลินิก)

9.จะต้องสวมเสื้อผ้าที่ไม่มีการนำไฟฟ้า ห้ามสวมเครื่องประดับ และเสื้อที่สวมนั้นต้องเป็นแบบกระดุมด้านหน้าถอดออกง่าย ๆ

เสริมคาง เชียงใหม่

สำหรับผู้ที่อยากจะทำศัลยกรรมเสริมคางที่มีความพร้อมทุกข้ออยู่แล้วจะทำให้อะไร ๆ ก็ง่ายมากขึ้นแถมการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดก็ไม่ยากด้วยแต่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดเสมอ หากคุณกำลังอยากจะทำคางอยู่พอดี ถ้าอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่แนะนำมาศัลยกรรมคางที่ T-point-clinic มีหลายคนเข้ามาใช้บริการแล้วถูกใจมาก ๆ ราคาไม่สูงด้วยสมเหตุสมผล ได้คางสวยตามที่ต้องการทุกคน

 

ศัลยกรรมเสริมคางเจ็บไหม ?

ถ้ามีใครที่บอกว่าทำมาแล้วไม่เจ็บนะอย่าไปหลงเชื่อ แสดงว่าเขาไม่ได้พูดความจริงแล้วล่ะ ในขั้นตอนการทำนั้นไม่เจ็บเท่าตอนทำเสร็จ เพราะว่าพอทำเสร็จแล้วยาชาก็อาจจะหมดฤทธิ์ไปนั่นแหละคือสิ่งที่คนทำศัลยกรรมต้องเจอทุกคน คำกล่าวที่ว่า “อยากสวย ต้องอดทน” ส่วนหนึ่งก็เพราะมันเจ็บนี่เอง ฉะนั้นบอกเลยว่าเจ็บแน่นอน แต่ว่าก็จะมียาแก้ปวดช่วยเอาไว้ได้ ซึ่งความปวดนี้จะมีเฉพาะในช่วงแรก ๆ เท่านั้นพอคางเริ่มเข้าที่แล้ว แผลเริ่มจะหายดีความเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลงและหายไป เถียงหัวชนฝาไปเลย ถ้าใครบอกเสริมคาง เชียงใหม่หรือเสริมคลินิกไหนมาแล้วไม่เจ็บเลยกินอะไรตามใจปากได้สบาย นั่นไม่ใช่แล้วนะ

เสริมคาง เชียงใหม่

 

การทำความสะอาดแผล หลังผ่าตัดเสริมคาง

เวลาผ่าตัดเสริมคาง เชียงใหม่เสร็จแล้วศัลยแพทย์จะแนะนำวิธีทำความสะอาดแผลที่ถูกต้องให้ ซึ่งจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัดที่สุดเลยนะ แผลจะได้หายเร็ว ๆ ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วย ในการทานอาหารนั้นควรจะทานอะไรที่อ่อน ๆ เคี้ยวง่าย งดอาหารเคี้ยวยาก ๆ อาหารที่ต้องขยับปากเยอะงดไปก่อนในช่วงระยะแรก ๆ ของการเสริมคาง รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะกระทบกระเทือนมาถึงแผลได้ก็ต้องงด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การยกของหนัก การทำงานบ้าน การวิ่ง การมีเพศสัมพันธ์ งดไปเลยประมาณ 3 สัปดาห์ พอหลังจากนั้นก็ค่อยทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ปกติเมื่อแผลหายแล้ว

เสริมคาง เชียงใหม่

 

วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมคางอย่างถูกต้องทำอย่างไร

พอผ่าตัดเสร็จแล้วอาการโล่งจะมาหาแน่นอนว่าเราได้ทรงคางที่สวยเข้ากับโครงหน้า ทำให้ดูมีเสน่ห์ น่ามอง เพิ่มความมั่นใจ แต่ว่าไม่ใช่จะไปทำกิจกรรมได้ปกตินะ กิจวัตรประจำวันบางอย่างก็ต้องงดไปก่อนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้แผลได้รับผลกระทบจนทำให้ต้องเสียเวลามาแก้คางใหม่ ซึ่งสิ่งที่จะต้องทำหลังเสริมคางมีดังนี้

1.ศัลยแพทย์จะแนะนำวิธีการล้างแผนอย่างถูกต้องให้ตามวิธีการผ่าตัด หากแผลอยู่บริเวณใต้คางให้เอาน้ำเกลือเช็ดบาดแผลอย่างเบามือ เช็ดจนไม่มีคราบเลือดแล้วค่อยต่อด้วยเบตาดีนทา สำหรับผู้ที่ผ่าแบบมีแผลในช่องปากนั้นก็จะต้องบ้วนปากทุกครั้งหลังการทานอาหาร โดยทางคลินิกจะจัดน้ำยาบ้วนมาให้

2.อาหารที่รับประทานได้หลังการผ่าตัดนั้นต้องเป็นอะไรที่เคี้ยวง่าย ๆ ทานง่าย ๆ ไม่ต้องใช้การขยับปากเยอะ โดยเฉพาะผู้ที่ผ่าตัดแบบแผลอยู่ด้านในช่องปาก

3.แม้จะเป็นอาหารอ่อนเคี้ยวง่ายแต่ถ้ารสจัดก็ทานไม่ได้นะ งดไปเลย รวมถึงของหมักดองต่าง ๆ ด้วยเหมือนกัน

4.จะต้องทำการประคบเย็น 72 ชั่วโมงแรกหลังจากการผ่าตัด ( 3 วัน ) โดยจะต้องประคบตลอดวันเลยห้ามเว้นว่างจะใช้เป็นน้ำแข็ง หรือเจลเย็นประคบก็ได้ โดยก่อนจะประคบก็หาอะไรมาห่ออีกชั้น จะเป็นพลาสติกก็ได้นะลองขอคำแนะนำจากแพทย์ดู เพื่อว่าเวลาประคบจะได้ไม่โดนแผล และต้องประคบเบา ๆ นะ เสริมคางเชียงใหม่มาประคบหนักรีบหายไม่ได้นะ กดไม่ได้ หาอะไรวางทับก็ไม่ได้นะ ต้องเบา ๆ เพราะความเย็นจะช่วยลดความเจ็บพอรู้สึกชาแล้วค่อยพัก หายชาก็เริ่มประคบใหม่

5.เวลานอนจะต้องให้ศีรษะอยู่สูงนะ หากที่นอนปรับได้ก็ให้อยู่ประมาณ 45 องศา ร่างกายจะจับเลือดเสียออกได้สะดวก ทำแบบนี้ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการผ่าตัดแผลจะได้ไม่บวมมากไป

6.ควรจะต้องทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เนื่องจากยานั้นจะช่วยลดอาการบวมอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อ แก้ปวด และจะช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น

7.อย่าลืมไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจดูอาการ ดูแผลหลังการผ่าตัดทุกครั้ง จนกว่าจะมั่นใจว่าแผลหายแล้วแพทย์จะบอกว่าไม่ต้องไปพบแพทย์แล้วก็ได้

8.ห้ามนอนคว่ำ ห้ามนอนตะแคง เด็ดขาด

9.เมื่อถึงเวลาตัดไหมต้องไปตามนัด โดยหมอจะนัดตัดไหมของแผลใต้คางหลังการผ่าตัดในวันที่ 15 อย่าลืมไป

10.หากมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นต้องรีบไปปรึกษาศัลยแพทย์ทันที

11.อย่าส่องกระจกหากเป็นไปได้เพราะว่าการทำคางนั้น จะเข้ารูปเข้ารอยช้ากว่าการเสริมส่วนอื่น ๆ อย่างน้อยต้องรอระยะประมาณ 3 เดือนถึงจะเริ่มเข้าที่

เสริมคาง เชียงใหม่

เสริมคาง เชียงใหม่


บทสรุป

การเสริมคางนั้นมันไม่ง่ายเลยแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของศัลยแพทย์เก่ง ๆ อย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากมีใบหน้าสวย เรียว งาม ต้องทำศัลยกรรมเสริมคางเชียงใหม่ และศึกษารายละเอียดของการทำคางอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้การเสริมคางเป็นเรื่องที่ง่ายดายและเสริมสร้างบุคลิกให้กับคุณ

รู้ไว้ก่อน อ่านสักนิด หากคิดจะแก้จมูกเชียงใหม่

สารบัญบทความ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเข้ารับการแก้จมูกเชียงใหม่

การแก้จมูกเหมาะสำหรับใครบ้าง

การเตรียมตัวก่อนจะแก้จมูกเชียงใหม่ทำอย่างไร

การพักฟื้นหลังแก้จมูก

การแก้จมูกนั้นมีข้อเสียไหม

อะไรบ้างที่ทำให้เป็นสาเหตุที่ต้องแก้จมูก

การแก้จมูก หรือเสริมจมูกใหม่ เจ็บไหม

บทสรุป

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเข้ารับการแก้จมูกเชียงใหม่

การศัลยกรรมเสริมจมูกถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ใครที่อยากจะมีจมูกโด่งสวย ดูมีมิติและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น การเสริมจมูกจะตอบโจทย์ความต้องการให้กับคุณได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมีความพึงพอใจ แต่อีกด้านนึงบางคนก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้ารับการแก้จมูก เชียงใหม่ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนจะพิจารณาตัดสินใจแก้จมูก จะมีเรื่องใดบ้างที่เราควรจะทราบ แอดมินจะมาอธิบายให้ฟัง

 

1.จะแก้จมูกกับหมอเดิม หรือจะย้ายคลินิกดี

ตอนทำจมูกแล้วมันออกมาไม่สวยอย่างที่คิดไว้ก็คงจะเฟลไม่น้อยเลย แต่มันจะยิ่งเฟลหนักมากหากมันทะเล ส่วนใหญ่ที่ซิลิโคนทะลุนั้นจะเป็นกับคนที่มีเนื้อเยื่อปลายจมูกบางแน่นอนว่าจะต้องรีบหาที่แก้แบบด่วน ๆ เลย แต่กว่ามันจะทะลุน่ากลัวแบบนั้นมันจะเริ่มเห็นซิลิโคนสีขาว ๆ ที่ปลายจมูกชัดก่อนแล้ว เป็นสัญญาณบอกว่ามันเสี่ยงมากแล้วนะ ทางที่ดีก็ลองหาคลินิคศัลยกรรมแล้วสอบถามแต่ละที่เลยว่าหากต้องการจะแก้นั้นมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แนะนำว่าควรสอบถามเรตการแก้จมูก ทั้งกับคลินิกเดิมและที่ใหม่ด้วยเพื่อเปรียบเทียบราคา การบริการ และ ทักษะความชำนาญการของศัลยแพทย์ แล้วจะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะใช้บริการกับคลินิกไหนดี

แก้จมูกเชียงใหม่

 

2.การแก้จมูกกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยในการศัลยกรรมแก้จมูกเชียงใหม่ คือควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง การศัลยกรรมเสริมจมูก เนื่องจากเคสแก้จมูกนั้นมีความยากมากกว่าการเสริมจมูกเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ควรตรวจเช็คประวัติของแพทย์รายนั้นรวมไปถึงผลงานและความเชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมีความมั่นใจว่าแพทย์รายนี้จะสามารถแก้ไขจมูกให้กลับมาสวยได้

แก้จมูกเชียงใหม่

 

3.ก่อนจะแก้จมูกจะต้องปรึกษาแพทย์ให้ดีเสียก่อน

การปรึกษาเพื่อแก้จมูกก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากเคสแก้จมูกนั้นต้องใช้ความชำนาญ และความละเอียดอ่อน เพื่อแก้จมูกจนได้ผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจ จมูกสวยและไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงควรมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีการวิเคราะห์ปัญหาจมูก อาการที่เกิดขึ้น สิ่งที่ต้องการแก้ไข เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการ มีความปลอดภัยในการผ่าตัดให้ลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงให้น้อยมากที่สุด

กลับสู่สารบัญ

 

การแก้จมูกเหมาะสำหรับใครบ้าง

สำหรับคนที่ทำศัลยกรรมจมูกแล้วเสริมไปก็อยากจะได้แบบสวย ๆ ทีเดียวจบเลยไม่ต้องคอยตามแก้ให้ยุ่งยากแถมยังต้องเสียเงินเพิ่มอีกด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้แบบนั้นด้วยหลาย ๆ ปัจจัยจึงทำให้ยังต้องมีเคสแก้จมูกเชียงใหม่ สำหรับคนที่เสริมจมูกมาแล้วจะต้องรีบหาคลินิกแก้นั้นมีกรณีดังนี้

1.จมูกปลายทะลุเห็นซิลิโคนโผล่ออกมาเลย

2.จมูกยุบบุ๋มลงไป

3.จมูกติดเชื้อ

4.จมูกผิดรูป บิดเบี้ยว

5.จมูกบวมไม่เข้าที่สักทีทำให้จมูกไม่เป็นทรง

นอกจาก 5 ข้อด้านบนนี้อาจจะยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ต้องแก้จมูกนะ เช่น การได้รับอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนจมูก ฉะนั้นแล้วหากคุณทำจมูกมาใหม่ ๆ ได้ทรงที่ชอบแล้วก็ต้องดูแลตัวเองหลักศัลยกรรมตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ให้ถูกวิธีด้วย

แก้จมูกเชียงใหม่

กลับสู่สารบัญ

 

การเตรียมตัวก่อนจะแก้จมูกเชียงใหม่ทำอย่างไร

การจะไปแก้จมูกนั้นต้องเตรียมตัวให้ดีไม่ต่างกับตอนที่จะไปทำศัลยกรรมเสริมจมูกใหม่ ๆ เลย แต่อาจจะบางอย่างที่จะต้องทำจุกจิกมากกว่าตอนผ่าตัดทำเสียด้วยซ้ำ แต่เพื่อความสวยงามและเข้าที่ได้จมูกที่ได้รูปก็ต้องทำนะ มีอะไรบ้างที่เป็นสิ่งที่ควรทำและเตรียมตัวมีดังนี้

1.จะต้องงดการทานยาที่รบกวนระบบไหลเวียนเลือด ไม่ว่าจะเป็น ยาคุมกำเนิด ยาฮอร์โมนต่าง ๆ วิตามิน แอสไพริน โดยจะต้องงดยาเหล่านี้ก่อนจะไปทำการแก้จมูก เชียงใหม่ แต่ถ้าหากมียาสำหรับโรคประจำตัวก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

2.งดบุหรี่ ก่อนการแก้จมูกอย่างน้อย 3 วัน หรือจะงดนานกว่านั้นได้ยิ่งดี

3.หากมีไข้ให้แจ้งศัลยแพทย์ทันที

4.เวลาอาบน้ำสบู่ที่ใช้จะต้องอ่อนโยน ถ้าใส่คอนเทคเลนส์ เครื่องประดับ ของมีค่า สีทาเล็บ ให้เอาออกให้หมดก่อนจะมาผ่าตัดแก้

5.งดทานอาหารและเครื่องดื่ม ขนม ต่าง ๆ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หากเป็นกรณีที่จะต้องใช้ยาสลบจะต้องงดน้ำและอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด

6.สวมเสื้อผ้าที่ถอดง่าย สวมง่าย แนะนำว่าควรจะเป็นเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า

7.งดใส่หมวก หน้ากาก แว่นกันแดด

8.พอผ่าตัดเสร็จแล้วงดการขับรถก่อน เพราะอาจจะลำบาก ขับรถยาก ฉะนั้นควรมีผู้ติดตามไปด้วย

งดทานยา ดื่มเหล้า ก่อนแก้จมูกเชียงใหม่

หลังจากที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมแก้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องดูแลตัวเองให้ดี ห้ามไปจับจมูกหรือสัมผัสกับแผลผ่าตัด หากมีเลือดไหลออกมาจากแผลก็ให้เช็ดได้แต่ว่าจะต้องเช็ดอย่างเบามือที่สุด ตลอดระยะเวลา 1 เดือนให้งดใส่แว่น งดบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตอนที่ทำเสร็จแรก ๆ นั้นอาจจะมีอาการเจ็บอยู่แต่ก็จะเจ็บประมาณ 7 วันเท่านี้ แต่จะเจ็บมากหรือน้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ส่วนการประคบเวลาแก้จมูกไม่ว่าจะทำกับคลินิกไหนก็ต้องประคบเย็นเท่านั้นนะ ในช่วงแรกแผลจะบวม ถ้าประคบจะช่วยทำให้ลดการบวมได้เร็ว และออกกำลังกายก็ยังไม่ได้นะงดเสียก่อน

กลับสู่สารบัญ

 

การพักฟื้นหลังแก้จมูก

หลังจากที่ได้ผ่าตัดแก้จมูกเชียงใหม่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว การดูแลตนเองหลังพักฟื้นก็ควรจะทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อการแก้จมูกของคุณประสบผลสำเร็จได้ตามที่ต้องการ โดยทั่วไปแล้วหลังจากที่แก้จมูกจะต้องมีการพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน จากนั้นแล้วบริเวณจมูกที่ผ่าตัดก็จะบวม ในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์อีกด้วย ทั้งนี้ต้องระวังไม่ให้มีเชื้อโรคและไม่สัมผัสสิ่งสกปรกแปลกปลอมทั้งหลาย รวมไปถึงงดอาหารรสจัด งดของดอง และต้องทำความสะอาดแผลอย่างถูกต้อง

 

การแก้จมูกนั้นมีข้อเสียไหม

มาพูดถึงข้อดีกันก่อนอย่างน้อยก็ทำให้ได้จมูกในแบบที่ต้องการ มีทรงสวยไม่ผิดรูปและต้องทำให้เนื้อจมูกหนาขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่จมูกซิลิโคนทะลุออกมาเพราะปลายจมูกค่อนข้างบาง แต่ว่าการจะแก้จมูกแต่ละทรงนั้นก็ต้องดูว่ามันผิดปกติอย่างไร จะทำให้ยาวขึ้น สั้นลง โด่งขึ้น ลดโด่งลง ศัลยแพทย์ทำให้ได้หมด แต่ว่าข้อเสียก็มีเหมือนกันคือจะเกิดเป็นแผลตรงฐานของจมูก ระยะเวลาในการพักฟื้นจะนานกว่าการเสริมจมูกปกติ อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการแก้จมูกจะสูงกว่าเสริมจมูกปกติด้วย

กลับสู่สารบัญ

 

อะไรบ้างที่ทำให้เป็นสาเหตุที่ต้องแก้จมูก

ฐานจมูกเอียงอยู่แล้วพอเสริมจมูกซิลิโคนก็จะเอียงตาม หรือไม่ก็เป็นเพราะศัลยแพทย์นั้นไม่มีความชำนาญทำออกมาแล้วแต่ไม่ได้ทรงตามที่ต้องการ แล้วใส่ซิลิโคนยาวเกินไปเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการทะลุได้ โพรงจมูกไม่เท่ากัน นอกจากนี้ก็มีเป็นเพราะแผลติดเชื้อด้วยนะสำหรับอาการนี้ที่ทำให้จมูกที่เสริมมาต้องแก้นั้นเพราะตัวผู้ทำเองไม่ระมัดระวังเรื่องอาหารเครื่องดื่มที่ทานเข้าไป โดยเฉพาะของหมักดอง การไปสัมผัสแผลบ่อย หรือโดนการกระแทกจนสะเทือนรุนแรง อย่างประสบอุบัติเหตุหรือโดนอะไรมาทับจมูก บางกรณีแม้จะโดนจมูกสะเทือนไม่มากแต่ก็ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัดได้จนต้องแก้ เพราะแบบนี้จึงต้องระวังแบบที่สุด

แก้จมูกเชียงใหม่

หากคุณหมอทำออกมาดีแล้วเราก็จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้จมูกเข้ารูปเร็วที่สุด ในระยะแรก ๆ อาจจะยังไม่ชินในการใช้ชีวิตตั้งแต่กินอาหารยันเข้านอนจะต้องระวังตลอด หากพลาดจมูกเบี้ยวผิดรูปมาก็ต้องเสียเงินแก้จมูกเชียงใหม่จ่ายเพิ่มกันไปอีก แต่ถ้าหากใครที่จำเป็นต้องแก้แล้วแต่ยังเลือกคลินิกอยู่ T-point-clinic ยินดีต้อนรับพร้อมจัดแก้ทรงจมูกให้ทุกท่านในราคามิตรภาพ สอบถามเพิ่มเติมก่อนได้ไม่ว่าจะเป็นเคสแก้จมูกที่ยากแค่ไหนคลินิกนี้ทำได้เสมอ ด้วยทักษะความชำนาญของทางศัลยแพทย์ ทำงานด้วยความรอบคอบ ตั้งใจ เพื่อให้ทุกคนได้จมูกที่โด่งสวยเข้ากับรูปใบหน้า

กลับสู่สารบัญ

 

การแก้จมูก หรือเสริมจมูกใหม่ เจ็บไหม

การเสริมจมูกนั้นบางคนก็ยังไม่กล้าทำเพราะยังกลัวที่จะได้แก้นั้นก็ส่วนหนึ่ง กลัวเจ็บบ้าง กลัวหมอทำไม่ดีบ้าง กลัวจะติดเชื้อแล้วเป็นอะไรต่าง ๆ นานา แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วก็ไม่มีหมอคนไหนที่อยากจะทำงานผิดพลาดโดยตั้งใจแน่นอน ส่วนมากที่ต้องแก้นั้นก็มักจะมาจากตัวของผู้ทำที่ไม่ยอมดูแลตัวเองตามคำแนะนำให้ดี ฉะนั้นหากอยากจะทำจมูกจริง ๆ ทำออกมาแล้วจะเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น สวยขึ้น หล่อขึ้น ทำให้บุคลิกภาพดี แต่งหน้ายังไงก็ขึ้น สวมชุดอะไรก็ปัง จมูกมีส่วนเกี่ยวไม่น้อยเลยนะ

แก้จมูกเชียงใหม่

หากจะให้บอกว่าทำเลยไม่เจ็บหรอกก็คงจะไม่ใช่ เพราะว่าหลังผ่าตัดศัลยกรรมจมูกเสร็จแล้วในช่วงสัปดาห์แรกนั้นจะบวมและมีอาการเจ็บแน่นอนแต่ก็อยู่ในระดับที่ทนได้ หากมันไม่ไหวก็คงไม่มีใครทำกันเยอะแยะว่าไหม หากทำแล้วเกิดมีปัญหา ไม่สวย ไม่ถูกใจ ทำแล้วพัง ทะลุ หรือเกิดปัญหาอย่างอื่นก็แก้จมูกให้ออกมาสวย ๆ ได้หมอศัลยกรรมจมูกเก่ง ๆ มีเยอะ คลินิกดี ๆ มีเพียบแต่อาจจะต้องพิจารณาเลือกหน่อย

 

บทสรุป

การแก้จมูก เชียงใหม่ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เสริมจมูกแล้วมีปัญหาตามมาในภายหลัง เช่น จมูกเบี้ยว จมูกเอียง จมูกทะลุ ซึ่งอาจจะเกิดจากการดูแลแผลหลังศัลยกรรมได้ไม่ดีพอ หรืออาจจะเกิดจากการใช้วัสดุซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นหากคุณกำลังจะคิดเสริมจมูก ก็ควรเลือกคลินิกที่ไว้วางใจได้ และมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย อย่าเห็นแต่ว่าราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมา มันก็จะไม่คุ้มกัน เผลอๆ อาจจะต้องจ่ายเงินค่าแก้จมูกแพงกว่าด้วยซ้ำไป

กลับสู่สารบัญ

เสริมจมูก เชียงใหม่ ปรับโหงวเฮ้ง เสริมความสวย เพิ่มความั่นใจ

เสริมจมูก เชียงใหม่ ต้องT-point clinic มีโปรโมชั่นราคาถูก

การทำศัลยกรรมในสมัยนี้ถือเป็นเรื่องปกติใคร ๆ ก็ทำกัน เพราะความสวย ความดูดีนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากโดยเฉพาะจมูก ถ้าจมูกแบนก็คงจะทำให้โครงหน้าหมดความโดดเด่นไปเลยการ เสริมจมูก เชียงใหม่ นั้นได้รับความนิยมในกลุ่มคนทุกวัย สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะเสริมความงามให้กับโครงหน้าทางคลินิก T-point-clinic มีแบบจมูกให้เลือก และแน่นอนว่าจะต้องดูจากโครงหน้าของแต่ละคนด้วยว่าทำจมูกแบบไหนทรงไหนแล้วออกมาปังมากที่สุด และก่อนจะทำนั้นต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร ต้องมีงบประมาณเท่าไหร่ ชวนมาติดตามหาความรู้ก่อนจะเริ่มสวยกันได้เลย

 

เลือกทรงจมูกอย่างไรให้เข้ากับโครงหน้า

สามารถเข้าคลินิกเพื่อทำการปรึกษาก่อนจะตัดสินใจทำได้เลยนะ ไม่ใช่แค่ที่ T-point-clinic เท่านั้นแต่คลินิกอื่น ๆ ก็ปรึกษาได้เหมือนกัน แล้วเราจะได้เห็นทรงจมูกว่ามีแบบไหนบ้าง และต้องทำความเข้าใจในโครงหน้าของตนเองด้วยนะ เช่น หน้ากลม หน้าเรียวเล็ก หน้ารูปไข่ ฯลฯ แล้วทรงจะจมูกแบบไหนที่คุณชอบมากที่สุด ดูแล้วน่าจะเหมาะเสริมจมูกเชียงใหม่ ออกมาแล้วสวยขึ้น หากตัดสินใจยากพนักงานจะมีความรู้ในด้านนี้และวิเคราะห์โครงหน้าพร้อมเลือกทรงจมูกช่วยได้ หรือไม่คุณหมอเองจะเป็นคนแนะนำให้ได้เหมือนกันนะ จะได้ช่วยคุณตัดสินใจว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับการศัลยกรรมทำจมูกในครั้งนี้

 

ทำจมูกใช้วัสดุอะไรดี ?

ในส่วนของจมูกที่จะเสริมนั้นวัสดุก็มีหลายแบบนะ อยากจะใช้อะไรก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละคน แต่ก่อนจะเริ่มสวยได้นั้นไม่ใช่ทุกคนจะทำได้นะ ต้องอายุถึงก่อนโดยอย่างน้อยต้องมากกว่า 16 ปีขึ้นไป ถ้าจะเอาแบบชัวร์ ๆ ไปเลยแนะนำว่าสัก 18 ปีกำลังเหมาะสม เพราะหากอายุน้อยกว่านี้จะยังอยู่ในช่วงของเจริญวัยร่างกายยังไม่หยุดเติบโตอาจจะส่งผลกระทบเวลาทำจมูกนั่นเอง

เมื่อมั่นใจแล้วว่าอายุถึงแน่นอน ถึงเวลาเลือกและตัดสินใจว่าจะใช้วัสดุอะไรในการทำดีเพราะว่ามีวัสดุที่จะต้องใช้ส่วนในร่างกายเราด้วยนะ เช่น หลังใบหู ซี่โครง หรืออย่างอื่น หรือไม่ก็ซิลิโคน เอาล่ะแต่ละแบบนั้นจะเป็นอะไรแบบไหนซึ่งจะมี 3 แบบดังนี้เลย

1.เสริมจมูกด้วยซิลิโคนแบบมาตรฐาน

ได้รับความนิยมไม่น้อยเหมือนกันสำหรับการใช้ซิลิโคนเสริมจมูก เพราะอย่างน้อยไม่ต้องเจ็บตัว และซิลิโคนเองก็มี 2 แบบนะ และจะใช้แบบไหนทำก็ต้องให้แพทย์วินิจฉันด้วย จะต้องดูจมูกของแต่ละคนว่าจมูกเป็นแบบไหน ความยาว เนื้อจมูก ทรงปลาย และ ทรงที่ต้องการเป็นแบบไหน ซึ่งซิลิโคนก็จะแบ่งออกมาเป็นแบบนี้

  • ซิลิโคนเสริมจมูกแบบธรรมดา ซึ่งจะเป็นวัสดุที่เหมาะจะใช้เสริมจมูก เชียงใหม่ ของคนที่มีเนื้อจมูกหนา เนื้อจมูกเยอะ เป็นแบบที่ค่อนข้างแข็งแรงเป็นมาตรฐานเลยทำแล้วดี อยู่นานไม่บิดเบี้ยวผิดรูปง่าย
  • ซิลิโคนเสริมจมูกแบบพิเศษ แน่นอนว่าวัสดุซิลิโคนแบบนี้จะใช้สำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยนั่นเอง พอเวลาทำออกมาแล้วจะให้มีความเป็นธรรมชาติ ไม่โดดเด่นมากไป สันจะชัด สวย ได้รูป

แบบของซิลิโคนเป็นส่วนหนึ่งที่จะเลือกให้จมูกออกมาสวยตามลักษณะของจมูกแต่ละคน แต่ก็ต้องดูรายละเอียดหลายอย่าง โดยเฉพาะกับคนที่เนื้อจมูกบาง น้อย แล้วเลือกทรงจมูกไม่เหมาะก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการละทุได้ อันตรายเหมือนกันนะ ฉะนั้นแล้วหากจมูกเนื้อน้อยแล้วอยากได้ทรงหยดน้ำ ก็อาจจะต้องเติมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนของตนเองแบบนี้ก็ช่วยได้ ซึ่งก็ต้องปรึกษาทางศัลยแพทย์อีกทีสำหรับรายละเอียดที่มากกว่านี้

 

2.เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง

แม้ว่าแบบนี้จะทำให้ต้องเจ็บหลายจุดนอกจากจมูกที่เสริมแต่มันก็คุ้มมากเพราะจะสวยสมใจเลย ซี่โครงอ่อนที่ใช้นั้นจะต้องเป็นส่วนในร่างกายของเราเองนะจะใช้ของคนอื่นไม่ได้เพราะเซลมันไม่เข้ากันหรือเข้ากันยาก แต่ถ้าว่าใช้ของคนอื่นเสริมจมูก เชียงใหม่ ได้ไหมก็ใช้ได้นะ เพียงแต่ถ้าเราใช้กระดูกซี่โครงอ่อนของตัวเองจะเข้ากันได้แบบ 100 % เลย จะได้จมูกสวย ๆ บวมบ้างนะตอนทำเสร็จแต่จะยุบเข้าที่เร็ว วัสดุนี้จะเหมาะกับคนที่ปลายจมูกสั้นแล้วอยากให้ยาว พุ่ง มากขึ้นแต่ว่าจะทำยากนะแพทย์จะต้องมีความชำนาญสูงในการผ่านตัดทำจมูกแบบนี้

 

3.เสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม

อาจจะไม่ค่อยได้ยินกันสักเท่าไหร่แต่ก็ใช้วิธีนี้ได้นะเนื้อเยื่อเทียมนี้จะเป็นวัสดุสังเคราะห์จากคอลลาเจน จะมีความซับซ้อนไขว้กันลักษณะจะเป็นแผ่นนุ่ม ๆ เหมือนฟองน้ำเลยก็จะคล้ายกับโครงสร้างผิวของคนเราปกติเลย ใกล้เคียงกันมากจริง ๆ แม้ว่าจะยังไม่แพร่หลายสำหรับวิธีนี้แต่ก็เริ่มมีคนทำเยอะแล้วนะ เป็นมิติใหม่ของการศัลยกรรมกระดูกเลย

เนื้อเยื่อเทียมสังเคราะห์นี้มีดีหลายอย่างนะ เวลามีปัญหาก็แก้ทรงได้ค่อนข้างง่ายกว่าวัสดุแบบอื่น เป็นวัสดุที่เข้ากับเซลผิวและเส้นเลือดได้ดี ทำแล้วไม่ทะลุง่ายเมื่อเปรียบเทียบแบบอื่น และแบบนี้จะเสริมจมูกที่ใช้ซิลิโคนได้ดีเพราะทำให้หนาขึ้น ปลายจมูกไม่ทะลุออกมา ไม่มีความเสี่ยงที่จะแพ้ ติดเชื้อ ด้วย แถมยังทำให้จมูกมาเป็นธรรมชาติ แต่ก็นะทุกอย่างมีดีและเสียการใช้วัสดุเนื้อเยื่อเทียมนี้อาจจะต้องแต่งเสริมปลายจมูกให้ดีถึงจะได้ทรงสวยตามที่อยากได้

 

เสริมจมูก เชียงใหม่ ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนดี ?

อยากแรกเลยจะต้องเตรียมงบประมาณให้พร้อมสำหรับการทำศัลยกรรม หากยังไม่ทราบเรตราคาสามารถโทรสอบถามทางคลินิกได้เลย หรือแวะเข้ามาที่ T-point- clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ก่อนจะเริ่มทำนั้นทางศัลยแพทย์จะมีการตรวจโรคก่อนหากมีโรคประจำตัวจะต้องแจ้งก่อน รวมถึงแพ้ยาอะไรไหม หรืออื่น ๆ โดยเฉพาะประวัติการใช้ยา อาหารเสริม ต่าง ๆ และวันที่จะผ่าตัดทำจมูกนั้นอย่าใส่เสื้อที่ถอดยาก ควรเป็นเสื้อที่มีซิปหรือกระดุมทางด้านหน้า และจะต้องใส่เสื้อแนวนี้ไปจนกว่าจมูกจะเข้าที่ ที่จะต้องใส่แบบนี้ก็เพราะลดการเสียดสีจมูกนั่นเอง

ยังไม่หมดนะอาหารและน้ำก็ต้องงดทานก่อนจะทำศัลยกรรมจมูกอย่างน้อยประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ทางศัลยแพทย์แนะนำก่อนว่างดน้ำและอาหารนานเท่าไหร่ดี บางกรณีก็ไม่ต้องมีการอดน้ำอดข้าวก็ยังทำได้ และประเด็นสำคัญอีกอย่างคือก่อนเสริมจมูกเชียงใหม่ห้ามแต่งหน้ามานะ เพราะอาจจะมีครีม เครื่องสำอางต่าง ๆ ไปโดนแผลผ่าตัดได้และควรจะสระผมให้เรียบร้อยด้วย พอทำเสร็จแล้วจะสระผมไม่ได้ไปหลายวันเลย

แล้วก็ยังต้องงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่ก็งดสูบแบบเด็ดขาดเลยจนกว่าจมูกจะเข้าที่ หาเตรียมหมอนหนุนเอาไว้ด้วยประมาณ 2 – 3 ใบ เวลาทำเสร็จแล้วจะนอนยากกว่าเดิมเพราะจะพลิกไปนอนท่าอื่น ๆ ไม่ได้นอกจากนอนหงาย หมอนจะช่วยให้นอนสบายขึ้นและต้องให้ศีรษะอยู่สูง ๆ นะ พร้อมด้วยอุปกรณ์ชุดทำความสะอาดแผลและรูจมูกจะต้องพร้อมไว้เลย ทำเสร็จจะได้ไม่ต้องไปวิ่งหาไม่ว่าจะเป็น สำลีก้าน สำลีแผ่น น้ำเกลือล้างแผล ผ้าขนหนู เจลประคบเย็น และ ยาแก้ปวด เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการเตรียมตัวทำหรับการทำศัลยกรรมเสริมจมูกเชียงใหม่แล้ว

 

พอทำการผ่าตัดเสร็จแล้วศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด ควรใส่ใจและทำตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้จมูกสวยเข้ารูปไม่พัง บางคนพอเสริมมาแล้วก็ทานอะไรที่หมอห้าม นอนไม่ถูก ไม่ดูแลตัวเองมันก็เสี่ยงมากบางคนถึงกับทะลุเละไปเลย จะโทษหมอก็ไม่ได้นะ ฉะนั้นข้อปฏิบัติการดูแลตัวเองหลังทำจมูกนั้นสำคัญมาก สำหรับราคาเริ่มต้นนั้นก็แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละคลินิก อาจจะเริ่มตั้งแต่ 15,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนกว่าเลย ซึ่งก็ต้องดูกันหลาย ๆ ปัจจัยว่าในโปร ฯ นั้น ๆ จะได้อะไรบ้าง แล้วเป็นการเสริมจมูกที่ใช้วัสดุแบบไหนด้วยนะ

สำหรับใครที่กำลังหาคลินิกศัลยกรรมแถว ๆ เชียงใหม่ หรือ พิษณุโลก T-point-clinic ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน ศัลยแพทย์มีความรู้ความชำนาญในการเสริมจมูก เชียงใหม่และการศัลยกรรมเสริมความงามอีกหลากหลายแวะเข้ามาปรึกษาได้ตั้งแต่วันจันทร์ – วันเสาร์ ในสาขาเชียงใหม่ช่วงเวลา 11.00 – 20.00 น. หรือโทร 092 – 226-8899 สำหรับสาขาพิษณุโลกเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น. หรือโทร 091-031-7484 บริการดี คุณหมอเก่ง ทำดีมากมีผลงานมากมาย อยากมีจมูกสวยอย่าลืมแวะมา T-point-clinic กันนะ